บอร์ดสลากฯงัดไม้เด็ดดัดหลังยี่ปั๊วรายใหญ่ สั่งเปิดเสรีขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้รายย่อย ซื้อสลากได้สูงสุดไม่เกิน 50 เล่มคู่ หรือ 10,000 ฉบับ แถมยังได้รับส่วนลด หรือกำไรเหมือนเดิม 9.60 บาท ผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจับมือบริษัทไปรษณีย์ไทยจัดส่งสลากให้ถึงสำนักงานไปรษณีย์ทุกพื้นที่ไม่ต้องมารับเองที่จังหวัด หรือสำนักงานสลากฯอีกต่อไป
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หาช่องทางขายหวยเพิ่ม ทั้งนี้ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) เปิดเผยเมื่อ 2 ก.ย.ว่า ที่ประชุมบอร์ดวันเดียวกันนี้ มีมติให้สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลาก แก่ประชาชนเพิ่มอีก 2 รูปแบบคือ 1. การซื้อตรง และ 2. การจองซื้อ โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นช่องทางในการชำระเงิน มีบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งสลากทั้งหมด ถึงสำนักงานไปรษณีย์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยสำนักงานสลากฯ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนซื้อตรงและจองซื้อสลากจากสำนักงานสลากฯได้ทุกราย แม้ว่าจะมีโควตากับสำนักงานสลากฯ แล้วก็ตาม เช่น 5 เล่มคู่หรือ 10 เล่มคู่ ก็ซื้อตรงหรือจองซื้อเพิ่มได้ แต่เมื่อรวมแล้วจำนวนสลากที่ได้รับในแต่ละงวด ต้องไม่เกิน 50 เล่มคู่ หรือ 10,000 ฉบับ
สำหรับการตัดสินใจของบอร์ดในครั้งนี้ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า เพื่อตอบสนองประชาชนที่ต้องการซื้อสลากไม่เกินคู่ละ 80 บาท ขณะเดียวกัน ยังตอบสนองความต้องการของผู้ขายที่ต้องการรับสลากมาขายเองโดยตรง แต่ปริมาณสลากที่ได้รับโควตาในแต่ละงวดเพียง 5 เล่มคู่ หรือ 1,000 ฉบับ ไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ผู้ค้าสลากเหล่านี้ต้องไปหาซื้อสลากเพิ่มเติมกับบรรดายี่ปั๊วหรือเอเย่นต์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการปั่นราคาสลากให้แพงขึ้น จากราคาขายปลีกที่สำนักงานสลากฯ กำหนดไว้คู่ละ 70.40 บาท เพิ่มขึ้นไปเป็นคู่ละ 77-78 บาท ทำให้กำไรของผู้ค้าจากที่กำหนดคู่ละ 9.60 บาท ลดลงเหลือเพียง 2-3 บาทเท่านั้น ทำให้ต้องขยับราคาขายจากที่กำหนดไว้คู่ละ 80 บาท ขึ้นไปเป็นคู่ละ 90 บาท
พล.ต.อภิรัชต์กล่าวอีกว่า มาตรการชุดนี้ ไม่ได้เป็นการดัดหลังพ่อค้าสลาก แต่เป็นการปรับวิธีการกระจายสลากให้สอดคล้องกัน ระหว่างปริมาณกับความต้องการของประชาชน วิธีนี้ หากประชาชนมีความต้องการสลากเพิ่มขึ้น สำนักงานสลากฯก็พร้อมที่จะพิมพ์สลากเพิ่ม จากปัจจุบันที่พิมพ์ทั้งหมด 74 ล้านฉบับ หรือ 37 ล้านคู่ จะพิมพ์ขึ้นไปเป็น 80 ล้านฉบับ ก็ทำได้ทันที เพียงแต่ขอให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น และในปีหน้าจะพยายามทำให้ราคา ขายปลีกสลากอยู่ที่คู่ละ 80 บาทอย่างถาวร
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หาช่องทางขายหวยเพิ่ม ทั้งนี้ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) เปิดเผยเมื่อ 2 ก.ย.ว่า ที่ประชุมบอร์ดวันเดียวกันนี้ มีมติให้สำนักงานสลากฯ จำหน่ายสลาก แก่ประชาชนเพิ่มอีก 2 รูปแบบคือ 1. การซื้อตรง และ 2. การจองซื้อ โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นช่องทางในการชำระเงิน มีบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งสลากทั้งหมด ถึงสำนักงานไปรษณีย์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยสำนักงานสลากฯ จะเปิดโอกาสให้ประชาชนซื้อตรงและจองซื้อสลากจากสำนักงานสลากฯได้ทุกราย แม้ว่าจะมีโควตากับสำนักงานสลากฯ แล้วก็ตาม เช่น 5 เล่มคู่หรือ 10 เล่มคู่ ก็ซื้อตรงหรือจองซื้อเพิ่มได้ แต่เมื่อรวมแล้วจำนวนสลากที่ได้รับในแต่ละงวด ต้องไม่เกิน 50 เล่มคู่ หรือ 10,000 ฉบับ
สำหรับการตัดสินใจของบอร์ดในครั้งนี้ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า เพื่อตอบสนองประชาชนที่ต้องการซื้อสลากไม่เกินคู่ละ 80 บาท ขณะเดียวกัน ยังตอบสนองความต้องการของผู้ขายที่ต้องการรับสลากมาขายเองโดยตรง แต่ปริมาณสลากที่ได้รับโควตาในแต่ละงวดเพียง 5 เล่มคู่ หรือ 1,000 ฉบับ ไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ผู้ค้าสลากเหล่านี้ต้องไปหาซื้อสลากเพิ่มเติมกับบรรดายี่ปั๊วหรือเอเย่นต์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการปั่นราคาสลากให้แพงขึ้น จากราคาขายปลีกที่สำนักงานสลากฯ กำหนดไว้คู่ละ 70.40 บาท เพิ่มขึ้นไปเป็นคู่ละ 77-78 บาท ทำให้กำไรของผู้ค้าจากที่กำหนดคู่ละ 9.60 บาท ลดลงเหลือเพียง 2-3 บาทเท่านั้น ทำให้ต้องขยับราคาขายจากที่กำหนดไว้คู่ละ 80 บาท ขึ้นไปเป็นคู่ละ 90 บาท
พล.ต.อภิรัชต์กล่าวอีกว่า มาตรการชุดนี้ ไม่ได้เป็นการดัดหลังพ่อค้าสลาก แต่เป็นการปรับวิธีการกระจายสลากให้สอดคล้องกัน ระหว่างปริมาณกับความต้องการของประชาชน วิธีนี้ หากประชาชนมีความต้องการสลากเพิ่มขึ้น สำนักงานสลากฯก็พร้อมที่จะพิมพ์สลากเพิ่ม จากปัจจุบันที่พิมพ์ทั้งหมด 74 ล้านฉบับ หรือ 37 ล้านคู่ จะพิมพ์ขึ้นไปเป็น 80 ล้านฉบับ ก็ทำได้ทันที เพียงแต่ขอให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น และในปีหน้าจะพยายามทำให้ราคา ขายปลีกสลากอยู่ที่คู่ละ 80 บาทอย่างถาวร
0 comments:
Post a Comment